พระไพรีพินาศเป็นพระพุทธรูปหินศิลา ขนาดหน้าตัก1คืบ4นิ้ว สูง1ศอก ประทับนั่งปางประทานพร คล้ายปางมารวิย แต่หงายพระหัตถ์ขวาขึ้น ประทับเหนือฐานบัวบังลังก์สองชั้นแบบบัวหงายบัวคว่ำ ศิลปกรรมคล้ายพระพุทธรูปแบบชวาซึ่งได้อิทธิพลศิลปะอินเดียแบบปาละ ประวัติเล่าว่า มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งเมื่อยังทรงผนวชอยู่ที่วัดบวรฯ เมื่อปี2391 ซึ่งประจวบกับระหว่างนั้น หม่อมไกรสร ซึ่งครองบรรดาศักดิ์เป็นกรมหลวงรักษรณเรศน์ มุ่งหวังที่จะขึ้นเป็นกรมพระราชวังวรสถานมคล แต่ยังไม่ได้แต่งตั้ง จึงเกิดอาฆาดมาดร้ายว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู๋หัวเป็นขวากหนาม แต่หาเหตุกลั่นแกล้งต่างๆนานา เช่น เอาข้าวต้มร้อนๆมาใส่บาตรของพระองค์ และยังได้หาเหตุจับสึกพระอุปัชฌาย์ของพระองค์และกลั่นแกล้งพระลูกวัดอยู่เนืองๆ จนวันหนึ่งมีผู้หวังดี เอาพระพุทธรูปองค์หนึ่งมาถวายพระองค์ จะเป็นด้วยอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปหรือเป็นนิมิตรหมายที่ดี หลังจากนั้นไม่นาน สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้เอาผิดหม่อมไกรสรในฐานพยายามซ่องสุมเพื่อการก่อกบฏ โดยการสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทร์ เมื่อวันที่ 13 ธค 2491 ด้วยเหตุการณ์นี้ พระองค์ได้ทรงสถาปนาพระนามพระพุธรูปองค์นี้ว่า พระไพรีพินาศ และได้จารึกพระราชหัตถ์ไว้ที่ใต้ฐานพระ ปัจจุบัน พระไพรีพินาศประดิษฐานอยู่ภายในวัดบวรราชวรวิหาร เมื่อปี 2488 สมเด็จพระวชิรวงศ์ วัดบวรนิเวศฯ ทรงได้รับการสถาปนาเป้นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก ครั้นเมื่อปี2495ทรงมีพระชนมายุครบ80พรรษาสบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย และหลังการฉลองพระชนมายุผ่านไป ได้มีการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมาเพื่อเป็นการทีฆายุมหามงคล แด่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อ 4 เมษายน 2496 มีขนาดหน้าตักประมาณ 3 คืบ นำขึ้นประดิษฐานไว้ที่มุขตะวันอกพระวิหารเก๋ง และในโอกาสอันเป็นมหาฤกษ์นี้ ได้มีการจัดสร้าง พระบูชาและพระเครื่องชุด พระไพรีพินาศ ขึ้น ประกอบด้วย 1 พระบูชาไพรีพินาศ 2 พระกริ่งไพรีพินาศ 3 พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ 4 พระชัยวัฒน์แบบทั่วๆไป 5 เหรียญพระไพรีพินาศ 6 หม้อน้ำมนต์ พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ ขนาดหน้าตัก 1 ซม. สูง 1.8 ซม. มีพิมพ์เดียว กรรมวิธีการสร้างแบบเดียวกับการสร้างพระกริ่ง คือหล่อ

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน